ค่ำคืนที่แฟนบอลปารีสไม่มีวันลืม! ปารีส แซงต์ แชร์กแมง สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของสโมสรได้สำเร็จ หลังโชว์ฟอร์มโหดไล่ถล่ม อินเตอร์ มิลาน ไปแบบขาดลอย 5-0 ในเกมนัดชิงชนะเลิศ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เมื่อคืนวันเสาร์ที่ 31 พฤษภาคมที่ผ่านมา คว้าถ้วยบิ๊กเอียร์ใบแรกในรอบ 54 ปีของสโมสรได้อย่างยิ่งใหญ่
เกมนี้ต้องบอกว่า เปแอสเช เหนือกว่าทุกระยะ ทั้งการครองบอล เกมรุกที่ไหลลื่น และจังหวะจบสกอร์ที่เฉียบคม โดยคนที่ฉายแสงสุดๆ คงหนีไม่พ้น เดซิเร่ ดูเอ้ ดาวยิงวัย 19 ปี ที่ถูกส่งลงตัวจริงก่อนหน้า แบรดลีย์ บาร์โคล่า และไม่ทำให้แฟนๆ ผิดหวัง หลังจัดไปคนเดียว 2 ประตู กับอีก 1 แอสซิสต์ พาเปแอสเชไล่ยิงไม่ยั้ง
หลังจบเกม เจ้าของรางวัล แมน ออฟ เดอะ แมตช์ ออกมาเปิดใจแบบสุดซึ้งว่า
“ผมพูดไม่ออกจริงๆ มันเหลือเชื่อมากสำหรับผม ต้องขอโทษจริงๆ ที่ไม่รู้จะพูดยังไง มันเป็นคืนที่สุดยอดที่สุดในชีวิตนักเตะของผมตั้งแต่เคยเล่นมา”
พร้อมกล่าวขอบคุณ หลุยส์ เอ็นรีเก้ กุนซือคนเก่งที่เชื่อมั่นในตัวเขา และปั้นให้เป็นกองหน้าตัวหลักของทีมในฤดูกาลนี้
“เขามาที่นี่แค่สองปี แต่สร้างประวัติศาสตร์ให้กับสโมสรได้แล้ว เขาเป็นโค้ชที่เก่งมาก ทั้งเรื่องแทคติก การวางแผน และการสร้างทีม เขาทำให้ทุกคนเชื่อว่าเราจะคว้าแชมป์ยุโรปได้จริงๆ”
ดูเอ้ ยังเสริมอีกว่า “เขาเป็นคนที่สุดยอดมากในห้องแต่งตัว เป็นทั้งหัวหน้าและพี่ชายที่ทุกคนเคารพ ผมนับถือเขามาก และดีใจสุดๆ ที่ได้ร่วมงานกัน”
สำหรับ หลุยส์ เอ็นรีเก้ เข้ามารับงานคุม เปแอสเช เมื่อ 2 ปีก่อน และพาทีมพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ จนซีซั่นนี้ระเบิดฟอร์มสุดโหดในบอลยุโรป ผ่านทีมแกร่งมาได้ทั้ง บาร์เซโลน่า, บาเยิร์น มิวนิค ก่อนจะปิดจ๊อบด้วยการไล่ถล่ม อินเตอร์ มิลาน แบบขาดลอยในนัดชิง
ค่ำคืนแห่งปารีสเต็มไปด้วยเสียงเฉลิมฉลอง เสียงแตร เสียงกลองในสนาม และแฟนบอลที่ฉลองกันยาวๆ ถึงเช้า ซึ่งดูเอ้ก็ทิ้งท้ายอย่างอารมณ์ดีว่า
“ไม่รู้เหมือนกันว่าจะฉลองยังไงดี แต่คืนนี้บ้าแน่ๆ ทุกคนรอวันนี้มานานมาก และผมว่ามันจะเป็นค่ำคืนที่ไม่มีใครลืมได้เลย”
แสดงความคิดเห็น