แฮร์รี่ เคน ได้รับรางวัลส่วนตัวมากมายและทำประตูได้มากมายตลอดอาชีพค้าแข้งกับท็อตแนมและอังกฤษ แต่ตู้โชว์ถ้วยรางวัลยังคงว่างเปล่า 

 

ตลอดเส้นทางอาชีพอันยอดเยี่ยมของแฮร์รี่ เคน กองหน้าชาวอังกฤษผู้เป็นที่รู้จักในฐานะหนึ่งในศูนย์หน้าที่อันตรายที่สุดของยุคสมัย เขายิงประตูได้อย่างสม่ำเสมอทั้งในระดับสโมสรและทีมชาติ ได้รับรางวัลส่วนตัวนับไม่ถ้วน ทั้งดาวซัลโวพรีเมียร์ลีก ผู้ทำประตูสูงสุดของทีมชาติอังกฤษ และเป็นอันดับสองตลอดกาลในพรีเมียร์ลีกรองจากอลัน เชียเรอร์ อย่างไรก็ตาม สิ่งหนึ่งที่ขาดหายไปจากโปรไฟล์อันน่าทึ่งของเขาก็คือ “ถ้วยแชมป์” ที่จับต้องได้ ตลอดระยะเวลาเกือบสองทศวรรษที่อยู่กับท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์ เคนไม่เคยได้เฉลิมฉลองชัยชนะในรายการใหญ่ๆ แม้จะเข้าใกล้หลายครั้งก็ตาม

เมื่อถึงจุดหนึ่งในอาชีพที่ควรจะได้สัมผัสความสำเร็จระดับทีม เคนจึงตัดสินใจย้ายออกจากท็อตแนมและเปิดประตูสู่บทใหม่กับบาเยิร์น มิวนิค ในปี 2023 ซึ่งเป็นสโมสรที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์การคว้าแชมป์มากมาย ความหวังของเขาคือการเติมเต็มตู้โชว์ถ้วยรางวัลที่ยังว่างเปล่า แต่กลับกลายเป็นว่าฤดูกาลแรกของเขากับทีมดังจากเยอรมนีกลับล้มเหลวอย่างไม่คาดคิด บาเยิร์นจบฤดูกาล 2023/24 โดยไม่ได้แชมป์เลยสักรายการ นับเป็นเรื่องผิดปกติอย่างยิ่งสำหรับทีมที่เคยชินกับการยืนอยู่บนจุดสูงสุดของลีก และยิ่งตอกย้ำให้เห็นถึงความโชคร้ายในเส้นทางลูกหนังของเคน

อย่างไรก็ตาม ฤดูกาลถัดมาในปี 2024/25 บาเยิร์นสามารถกลับมาคว้าแชมป์บุนเดสลีกาได้อีกครั้ง แม้ว่าจะไม่ใช่ฤดูกาลที่ราบรื่นนัก ทั้งในเรื่องฟอร์มการเล่นและผลการแข่งขันในฟุตบอลยุโรปและถ้วยในประเทศ แต่การคว้าแชมป์ลีกสูงสุดของเยอรมนีในปีนี้ก็ถือเป็นความสำเร็จครั้งแรกในอาชีพของแฮร์รี่ เคน ที่รอคอยมาอย่างยาวนาน แม้ว่าเขาจะพลาดลงสนามในนัดสุดท้ายเพราะติดโทษแบนจากการสะสมใบเหลือง แต่ก็ไม่มีสิ่งใดจะลดคุณค่าความสำเร็จของเขาในฤดูกาลนี้ได้ เพราะนี่คือถ้วยรางวัลแรกในชีวิตการค้าแข้งของเขา หลังจากยิงไปแล้วมากกว่า 400 ประตูในทุกรายการตลอดอาชีพ

เรื่องราวของเคนคือเส้นทางที่เต็มไปด้วยความพยายาม ความผิดหวัง และการพลาดโอกาสในนัดสำคัญๆ หลายครั้ง ทั้งในรอบรองฯ เอฟเอ คัพ, นัดชิงฯ แชมเปียนส์ลีก กับท็อตแนม หรือจังหวะสำคัญในศึกฟุตบอลโลกและยูโรกับทีมชาติอังกฤษ แม้ในหลายครั้งเขาจะทำผลงานส่วนตัวได้อย่างยอดเยี่ยม เช่น การเป็นดาวซัลโวฟุตบอลโลก 2018 แต่ก็ยังไม่มีรางวัลระดับทีมมาประดับเกียรติยศ อย่างไรก็ตาม ชัยชนะล่าสุดนี้กับบาเยิร์นมิวนิค คือบทพิสูจน์ว่าเขาไม่ยอมแพ้ต่อโชคชะตา

นอกจากนี้ เพื่อนร่วมทีมใหม่อย่างเอริค ไดเออร์ ที่เคยเป็นเพื่อนร่วมสโมสรกับเขาที่ท็อตแนม ก็ได้ร่วมแบ่งปันช่วงเวลาแห่งความสำเร็จครั้งนี้เช่นกัน ถือเป็นการยุติ “คำสาป” ของทั้งสองคนที่เคยถูกตราหน้าว่าเป็นนักเตะชั้นยอดแต่ไร้แชมป์ บทสรุปในตอนนี้คือ แฮร์รี่ เคน ในวัยใกล้ 32 ปี ได้กลายเป็น “แชมป์” อย่างแท้จริงในที่สุด และการเริ่มต้นใหม่ในเยอรมนีของเขาก็ดูจะเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง ซึ่งอาจจะนำไปสู่ความสำเร็จอื่นๆ ในอนาคตอันใกล้











Post a Comment

ใหม่กว่า เก่ากว่า