ในวันที่ 13 เมษายน 2025 นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ได้ทำผลงานอันน่าประทับใจหลังจากเอาชนะแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 4-1 ในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาล 2024/25 ที่สนามเซนต์ เจมส์ พาร์ค คว้าชัยชนะอันยิ่งใหญ่ขึ้นไปอยู่ในอันดับที่ 4 ของตารางคะแนนด้วย 56 คะแนน จาก 31 นัด ซึ่งแซงหน้าแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ขึ้นมาครองตำแหน่งท็อปโฟร์ในขณะที่ทีมเต็งๆ ของพรีเมียร์ลีกในปีนี้ยังคงรักษาผลงานที่ยอดเยี่ยมได้อย่างต่อเนื่อง

ในแมตช์นี้ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ได้ประตูขึ้นนำก่อนจากซานโดร โตนาลี่ ในนาทีที่ 24 หลังจากนั้นแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มาตีเสมอได้จากอเลฮันโดร การ์นาโช่ ในนาทีที่ 37 แต่หลังจากพักครึ่ง นิวคาสเซิ่ลไม่ยอมให้ทีมเยือนมีโอกาสพลิกเกมได้ โดยฮาร์วีย์ บาร์นส์ ยิงสองประตูในนาทีที่ 49 และ 64 ก่อนที่บรูโน่ กีมาไรส์ จะมาตอกย้ำชัยชนะให้กับทีมในนาทีที่ 77 ทำให้เกมนี้จบลงด้วยชัยชนะขาดลอย 4-1

จากผลการแข่งขันนี้ ทำให้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยังคงอยู่ในอันดับที่ 14 ของตาราง ด้วยคะแนน 38 คะแนน จาก 31 นัด ซึ่งถือว่าเป็นผลงานที่ไม่ดีเท่าที่ควรสำหรับทีมที่เคยเป็นแชมป์พรีเมียร์ลีกหลายสมัย

ในขณะเดียวกัน ลิเวอร์พูล ยังรักษาจ่าฝูงของตารางได้อย่างเหนียวแน่น โดยมี 76 คะแนน จาก 32 นัด ขณะที่อาร์เซนอล ตามมาเป็นอันดับที่ 2 ด้วย 63 คะแนน น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ รั้งอันดับ 3 ด้วย 57 คะแนน ส่วนอันดับที่ 4 เป็นของนิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ที่มี 56 คะแนน โดยยังเหลือการแข่งขันอีกหลายเกมในการต่อสู้แย่งตำแหน่งในท็อปโฟร์ในช่วงท้ายฤดูกาลนี้

ตารางคะแนนพรีเมียร์ลีกล่าสุดหลังจากการแข่งขันวันที่ 13 เมษายน 2025 มีดังนี้

  • ลิเวอร์พูล – 76 คะแนน (32 นัด)
  • อาร์เซนอล – 63 คะแนน (32 นัด)
  • น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ – 57 คะแนน (32 นัด)
  • นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด – 56 คะแนน (31 นัด)
  • แมนเชสเตอร์ ซิตี้ – 55 คะแนน (32 นัด)
  • แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด – 38 คะแนน (31 นัด)

ชัยชนะในครั้งนี้ของนิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ทำให้แฟนบอลได้เห็นฟอร์มอันยอดเยี่ยมของทีมที่ขยับขึ้นมาเป็นหนึ่งในทีมที่มีโอกาสลุ้นแชมป์หรือทำอันดับไปเล่นฟุตบอลยุโรปในฤดูกาลหน้า ส่วนแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ต้องพยายามกลับมาปรับปรุงฟอร์มการเล่นเพื่อกลับสู่เส้นทางที่ดีขึ้นในช่วงที่เหลือของฤดูกาลนี้





Post a Comment

ใหม่กว่า เก่ากว่า