เส้นทางของวาร์ดี้กับเลสเตอร์ต้องบอกว่าสุดมหัศจรรย์ จากนักเตะนอกลีกที่ย้ายมาด้วยค่าตัวแค่ 1 ล้านปอนด์ในปี 2012 ก่อนจะยิงกระจาย พาทีมไต่เต้าจากแชมเปียนชิพขึ้นพรีเมียร์ลีก แล้วก็ทำในสิ่งที่แทบไม่มีใครเชื่อว่าจะเกิดขึ้น ด้วยการพาทีมคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกในปี 2015/16
นอกจากแชมป์ลีกสูงสุด วาร์ดี้ยังมีแชมป์เอฟเอ คัพ ติดมืออีกหนึ่งสมัยในปี 2021 รวมถึงการพาทีมเข้าไปไกลถึงรอบ 8 ทีมสุดท้าย ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก และตลอด 13 ปี เจ้าตัวลงสนามให้ทีมไป 496 นัด ซัดไป 198 ประตู กลายเป็นดาวซัลโวสูงสุดตลอดกาลของสโมสรไปเรียบร้อย
แม้จะมีผลงานสุดยิ่งใหญ่ แต่ซีซั่นนี้ต้องบอกว่าหนักหนาสาหัสสำหรับเลสเตอร์ หลังทีมต้องตกชั้นกลับไปเล่นในแชมเปียนชิพอีกครั้ง วาร์ดี้เองก็ออกมายอมรับว่านี่คือฤดูกาลที่น่าผิดหวังที่สุดตั้งแต่เล่นฟุตบอลมา พร้อมขอโทษแฟนๆ ผ่านโซเชียลด้วย
ส่วนอนาคตหลังจากนี้ เจ้าตัวยังไม่คิดแขวนสตั๊ด และเตรียมพิจารณาข้อเสนอจากหลายสโมสร ทั้งจากเมเจอร์ลีกในอเมริกา, ลีกซาอุฯ หรืออาจจะมีทีมในอังกฤษที่สนใจดึงตัวไปใช้งานต่อ
โดยเกมสุดท้ายของวาร์ดี้ในบ้านจะเกิดขึ้นวันที่ 18 พฤษภาคมนี้ ในเกมที่เลสเตอร์จะเปิดคิง เพาเวอร์ สเตเดียม รับการมาเยือนของ อิปสวิช ทาวน์ คาดว่าบรรยากาศน่าจะเต็มไปด้วยความซึ้งจากแฟนบอลที่อยู่กับเขามาตลอดกว่า 10 ปี









إرسال تعليق