ในเกมการแข่งขันฟุตบอลเอฟเอ คัพ (FA Cup) รอบที่ 4 เมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2025 ที่ผ่านมา พลีมัธ อาร์ไกล์ จากเดอะแชมเปียนชิพ เปิดบ้านรับการมาเยือนของลิเวอร์พูล ทีมยักษ์ใหญ่จากพรีเมียร์ลีก ผลการแข่งขันจบลงด้วยชัยชนะของพลีมัธ 1-0 ซึ่งเป็นความพ่ายแพ้ที่เซอร์ไพรส์และสะเทือนวงการฟุตบอลในอังกฤษ การแข่งขันครั้งนี้ถือเป็นหนึ่งในเกมที่พลีมัธสามารถทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในการเอาชนะทีมใหญ่ในบ้านของตัวเอง
ครึ่งแรก: ลิเวอร์พูล ครองบอล แต่ไม่สามารถเจาะแนวรับของพลีมัธได้
เริ่มเกมในครึ่งแรก ลิเวอร์พูลในฐานะทีมเยือน ครองบอลได้มากกว่าและมีการเคลื่อนที่ในเกมรุกที่หลากหลายจากการมีผู้เล่นตัวหลักอย่าง โมฮาเหม็ด ซาลาห์, ดาร์วิน นูนเญซ และฮาร์วีย์ เอลเลียตต์ ที่พยายามเปิดเกมรุกเพื่อหาประตูขึ้นนำ แต่แนวรับของพลีมัธได้แสดงให้เห็นถึงความเหนียวแน่น โดยมีผู้เล่นแนวรับที่มีสมาธิและเล่นได้อย่างดี จัดการหยุดการโจมตีจากลิเวอร์พูลได้หลายครั้ง
ในช่วงครึ่งแรก ลิเวอร์พูลก็มีโอกาสที่ดีในการทำประตู แต่การจบสกอร์ที่ไม่แม่นยำหรือการป้องกันที่ดีจากพลีมัธ ทำให้เกมจบลงด้วยสกอร์ 0-0 โดยทั้งสองทีมไม่สามารถทำประตูได้ก่อนจบครึ่งแรก ทำให้ผู้ชมในสนามและผู้ชมทางทีวีต่างคาดหวังว่าจะมีการทำประตูในครึ่งหลัง
ครึ่งหลัง: การโต้กลับของพลีมัธ และประตูชัยจากจุดโทษ
เข้าสู่ครึ่งหลัง ลิเวอร์พูลยังคงครองบอลและพยายามหาทางเจาะแนวรับของพลีมัธ แต่การตั้งรับที่ดีของพลีมัธทำให้ทีมของเจอร์เก้น คล็อปป์ ต้องเผชิญกับความยากลำบากมากขึ้น และในนาทีที่ 53 เกมได้พลิกผันอย่างไม่คาดคิด เมื่อฮาร์วีย์ เอลเลียตต์ กองกลางของลิเวอร์พูลไปทำแฮนด์บอลในเขตโทษ ทำให้ผู้ตัดสินเป่าให้เป็นจุดโทษแก่พลีมัธ
ไรอัน ฮาร์ดี้ กองหน้าของพลีมัธ ได้รับหน้าที่ในการสังหารจุดโทษ และเขาก็ไม่พลาดในการเปลี่ยนโอกาสนี้เป็นประตู ทำให้พลีมัธขึ้นนำ 1-0 ท่ามกลางความดีใจของแฟนบอลในสนามและผู้เล่นของพลีมัธ
การขึ้นนำของพลีมัธทำให้ลิเวอร์พูลต้องบุกหนักเพื่อหาประตูตีเสมอ แต่การจัดการเกมรับของพลีมัธยังคงเป็นสิ่งที่แข็งแกร่ง ทำให้ลิเวอร์พูลไม่สามารถทำประตูได้ถึงแม้ว่าจะมีการเปลี่ยนตัวผู้เล่นในช่วงหลังเพื่อเพิ่มความสดใหม่ให้กับเกมรุก
หลังจากเสียประตู ลิเวอร์พูลพยายามที่จะกดดันพลีมัธอย่างหนัก โดยการเล่นเกมรุกที่มีความเร็วและพยายามเปิดบอลจากข้างสนามเข้าสู่กรอบเขตโทษ แต่น่าเสียดายที่การจบสกอร์ของพวกเขายังคงไม่คมพอ และในหลายๆ ครั้ง ผู้เล่นพลีมัธก็ทำการบล็อกหรือสกัดบอลออกไปได้ โดยเฉพาะจากการป้องกันของแนวรับที่มีความเหนียวแน่น
ลิเวอร์พูลพยายามใช้ผู้เล่นสำรองอย่างโรแบร์โต้ ฟิร์มิโน่ และดิโอโก้ โชต้า เพื่อเพิ่มความหลากหลายให้กับการโจมตี แต่ก็ไม่สามารถทำประตูได้เลยจนกระทั่งหมดเวลาการแข่งขัน
สรุปผลการแข่งขัน
- พลีมัธ อาร์ไกล์ 1-0 ลิเวอร์พูล
- ประตู: ไรอัน ฮาร์ดี้ (นาทีที่ 53 - จุดโทษ)
- เหตุการณ์สำคัญ: การทำแฮนด์บอลของฮาร์วีย์ เอลเลียตต์ในเขตโทษของลิเวอร์พูล ทำให้พลีมัธได้จุดโทษและทำประตูขึ้นนำ





إرسال تعليق