แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เฉือนชนะ เลสเตอร์ ซิตี้ 2-1 เข้ารอบ 16 ทีมสุดท้าย เอฟเอ คัพ
เกมเริ่มต้นในครึ่งแรกด้วยการครองบอลที่สูสีทั้งสองทีม แม้ว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะมีโอกาสบุกมากกว่า แต่เป็น เลสเตอร์ ซิตี้ ที่สามารถทำประตูขึ้นนำก่อนในนาทีที่ 42 จากจังหวะที่ วิลเฟรด เอ็นดีดี ยิงไปติดเซฟ อ็องเดร โอนาน่า และบอลกระเด้งมาเข้าทาง บ็อบบี้ เด คอร์โดวา-รีด ที่โหม่งซ้ำจ่อๆ เข้าไปอย่างเด็ดขาด ทำให้ เลสเตอร์ ซิตี้ ขึ้นนำ 1-0 ก่อนที่จะจบครึ่งแรกไปด้วยสกอร์นี้
เข้าสู่ครึ่งหลัง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เปิดเกมบุกอย่างหนักเพื่อหาประตูตีเสมอ และในนาทีที่ 68 ความพยายามของทีมเจ้าบ้านก็สำเร็จ โดย โจชัว เซิร์กซี ตัวสำรองที่เพิ่งถูกเปลี่ยนตัวลงมา ยิงประตูตีเสมอให้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 1-1 ซึ่งทำให้สถานการณ์ของเกมกลับมาสู่ความเสมอกัน
หลังจากนั้น ทั้งสองทีมยังคงเปิดเกมบุกใส่กันอย่างต่อเนื่อง แต่ไม่มีทีมใดทำประตูเพิ่มได้ จนกระทั่งในช่วงทดเวลาบาดเจ็บนาทีที่ 90+3 บรูโน่ แฟร์นันด์ส ปั่นฟรีคิกจากฝั่งซ้ายไปที่เสาไกล และเป็น แฮร์รี่ แม็กไกวร์ ที่โหม่งบอลย้อนศรเข้าไปอย่างสวยงาม ทำให้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พลิกแซงนำ 2-1 และประตูนี้ก็กลายเป็นประตูชัยในที่สุด
จบเกม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เปิดบ้านชนะ เลสเตอร์ ซิตี้ 2-1 ผ่านเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้ายของฟุตบอลเอฟเอ คัพ โดยถือเป็นทีมแรกที่ผ่านเข้ารอบในปีนี้
การชนะครั้งนี้ถือเป็นความสำเร็จที่สำคัญของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่แม้จะประสบปัญหาผลงานไม่ค่อยดีในลีก แต่สามารถก้าวผ่านรอบนี้ได้ด้วยฟอร์มที่ใจสู้ นอกจากนี้ยังต้องขอชมการเล่นของ แฮร์รี่ แม็กไกวร์ ที่เป็นฮีโร่ในช่วงทดเวลา และทำประตูชัยให้ทีม
สำหรับ เลสเตอร์ ซิตี้ แม้ว่าจะทำผลงานได้ดีในครึ่งแรก แต่ก็ไม่สามารถรักษาสกอร์นำได้ และแพ้ไปในที่สุด ต้องกลับไปปรับปรุงเกมรับของตัวเองเพื่อโอกาสในอนาคต
ในส่วนของการแข่งขันรอบต่อไป คาดว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะต้องเผชิญกับคู่แข่งที่ยากขึ้น แต่ด้วยความมั่นใจจากชัยชนะในเกมนี้ ทีมอาจจะมีโอกาสผ่านเข้าสู่รอบลึกๆ ต่อไป

.png)
.png)
%20(1).jpg)
%20(1).jpg)
إرسال تعليق