พรีเมียร์ลีกคู่แรกของค่ำคืนวันเสาร์นี้เป็นเกมที่สนาม เอติฮัด สเตเดี้ยม เจ้าบ้านทีม เรือใบสีฟ้า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จะรอต้อนรับทีม สาริกาดง นิวคาสเซิล ซึ่งทั้งสองทีมนั้นอยู่ในกลุ่มหัวตาราง และเป็นคู่แข่งแย่งชิงโควต้าถ้วยยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกกันโดยตรง ปัจจุบันทั้งคู่มีคะแนนเท่ากันที่ 41 คะแนน รวมถึงสถิติต่างๆนั้นก็ใกล้เคียงกันมาก อีกประเด็นที่หน้าสนใจคือเป็นการวัดคมของสองยอดศูนย์หน้าแห่งยุค เออร์ลิ่ง ฮาลันด์ และ อเล็กซานเดอร์ อิซัค 



        แมนเชสเตอร์ ซิตี เมื่อกลางสัปดาห์ลงเล่นถ้วยยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกเปิดบ้านแพ้ เรอัลมาดริด 2-3  เออร์ลิ่ง ฮาลันด์ เหมาคนเดียวสองประตู ก่อนที่จะมาโดนทีเด็ดราชันยิงสองลูกช่วงท้ายเกม ทำให้ต้องไปลุ้นต่อกันในเกมนัดที่สอง ส่วนพรีเมียร์ลีกปัจจุบันอยู่อันดับ 5 ของตาราง ยังต้องลุ้นเบียดแย่งอันดับท็อปโฟร์กับอีกหลายๆทีม ฟอร์มการเล่นช่วงหลังมีดีบ้างแย่บ้างขาดความสม่ำเสมอ ในลีกนัดที่แล้วก็บุกไปแพ้ทีมปืนใหญ่ขาดลอย 5-1 ต้องบอกว่าช่วงนี้เกมรับมีปัญหาหนักจริงๆ แทบไม่มีนักเตะที่ไว้ใจได้เลย ผลัดกันผิดพลาดได้ตลอด โดยเฉพาะเวลาที่บุกแล้วยิงคู่แข่งไม่ได้ ก็มักจะเป็นฝ่ายที่ต้องเสียประตูก่อนเสมอ

        ความพร้อมของทีมในแมตช์นี้ จะหมดสิทธิ์ใช้งาน โรดรี้, มานูเอล อคานยี ที่ยังมีปัญหาอาการบาดเจ็บอยู่ ส่วนทางด้าน แจ็ค กรีลิช ก็ต้องลุ้นว่าจะพร้อมสำหรับเกมนี้หรือไม่ ส่วนผู้เล่นรายอื่นๆ ไม่มีปัญหาอะไร สามารถลงสนามได้ในเกมนี้




        เป๊ป กวาร์ดิโอล่า น่าจะจัดทัพมาในระบบ 4-2-3-1 ผู้รักษาประตูยังคงเป็น เอแดร์ซอน ลงเฝ้าเสา ส่วนแผงกองหลังวาง ริโก้ เลวิส, รูเบน ดิอาซ, จอห์น สโตนส์ และ ยอสโก้ กวาร์ดิโอล คู่กองกลาง มัตเตโอ โควาซิช จับคู่ แบร์นาโด้ ซิลวา ผู้เล่นในแนวรุก ฟิล โฟเด้น, ซาวินโญ่ และ โอมาร์ มาร์มูซ ส่วนกองหน้าตัวเป้า เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์



        นิวคาสเซิลยูไนเต็ด เกมล่าสุดในฟุตบอลถ้วย FA Cup บุกไปเฉือนชนะ เบอร์มิงแฮมซิตี้ 2-3 เอ็ดดี ฮาว หมุนเวียนนักเตะหลายตำแหน่ง คุณภาพและความเข้มข้นของเกมจึงลดลงไปบ้าง โดยทีมสาริกาดงได้ประตูจาก โจ วิลล็อก และ แคลลัม วิลสัน ที่หายเจ็บกลับมาก็ยิงประตูได้ทันที ทำให้ตอนนี้ยังมีลุ้นบอลถ้วยทั้งสองรายการ ส่วนในพรีเมียร์ลีกปัจจุบันอยู่อันดับ 6 ห่างจากท็อปโฟร์แค่ 2 คะแนน ช่วงหลังเริ่มออกอาการสะดุดแพ้ไปสองเกมจาก 5 เกมหลังสุดในลีก เกมรุกไม่มีปัญหานักเตะสามตัวบนกำลังท็อปฟอร์ม ช่วยกันยิงประตูอย่างต่อเนื่อง แต่แนวรับมีอาการบาดเจ็บรบกวนเรื่อยๆ และบางครั้งก็เสียประตูกันแบบง่ายๆเกินไปหน่อย

        ความพร้อมของทีมในแมตช์นี้ จะหมดสิทธิ์ใช้งาน จามาล ลาเซเรส, ฮาร์วีย์ บรานส์ และ โจเอลลิ่งตัน ที่มาอาการบาดเจ็บรบกวนอยู่ ส่วนทางด้าน แดน เบิร์น, แอนโธนี่ กอร์ดอน, สเวน บอสแมน ยังคงต้องรอเช็คความฟิตว่าจะพร้อมสำหรับเกมนี้หรือไม่ ส่วนผู้เล่นคนอื่นๆ ไม่มีปัญหา พร้อมสำหรับการลงเล่นในเกมนี้



        เอ็ดดี้ ฮาว น่าจะจัดทัพมาในระบบ 4-3-3 ผู้รักษาประตูยังคงเป็น มาร์ติน ดูบราฟก้า ลงเฝ้าเสา ส่วนแผงกองหลังวาง ติโน่ ลิวาเมนโต้, ฟาเบียง แชร์, แดน เบิร์น และ เลวิส ฮอลล์ ส่วนแผงกองกลาง บรูโน่ กิมาไรส์, ซานโดร โตนาลี่ และ โจ วิลล็อค ส่วนผู้เล่นในแนวรุก จาค็อบ เมอร์ฟีย์, แอนโธนีย์ กอร์ดอน และ อเล็กซานเดอร์ อิซัค

        สถิติการพบกัน 5 นัดหลังสุด



        คู่นี้ปกติเจอกันทีไรต้องซัดกันให้แหลกไปข้าง แต่ด้วยสถานการณ์ตอนนี้ อาจจะหันไปเล่นแบบเน้นผลกันซะมากกว่า เจ้าบ้าน แมนเชสเตอร์ซิตี ได้พักเพียงแค่สองวันเท่านั้น และมีเกมหนักรออยู่ช่วงกลางสัปดาห์หน้า ปัญหาใหญ่คือเกมรับเสียง่ายมาก ป้องกันเกมสวนกลับได้ไม่ดี ในขณะที่ทีมเยือน นิวคาสเซิลยูไนเต็ด ลงเตะแบบถี่ยิบเหมือนกัน แนวรับมีปัญหาตัวเจ็บเพิ่มขึ้น ตำแหน่งเซนเตอร์แทบไม่เหลือให้ใช้งาน คาดว่าทีมเยือนจะมาเล่นเน้นปลอดภัย ขันเกมรับให้แน่นหนาล่อลวงให้เจ้าถิ่นเปิดเกมรุกเข้าใส่ แล้วหาโอกาสเล่นเกมสวนกลับในแบบที่ถนัด ซึ่งเป็นแผลขนาดใหญ่ของแมนเชสเตอร์ซิตีมาหลายเกมแล้ว อีกอย่างคือสมาธินักเตะแมนเชสเตอร์ซิตีน่าจะไปอยู่ที่เกมถัดไปมากกว่า เกมนี้จึงมีโอกาสพลาดท่าโดนนิวคาสเซิลยูไนเต็ดบุกมาลูบคมถึงถิ่น ตาดว่าสกอร์จะจบที่ แมนเชสเตอร์ซิตี แพ้ นิวคาสเซิลยูไนเต็ด 1-2

Post a Comment

ใหม่กว่า เก่ากว่า